ชุมพร – แก็งค์ไม้เถื่อน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย บุกตัดไม้300ปีกลางป่าต้นน้ำผืนสุดท้ายราบนับร้อยต้น หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตรวจยึดไป ก็ยังบุกตัดไม้ ป่าต้นน้ำ
ชุมพร – แก็งค์ไม้เถื่อน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย บุกตัดไม้300ปีกลางป่าต้นน้ำผืนสุดท้ายราบนับร้อยต้น หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตรวจยึดไป ก็ยังบุกตัดไม้ ป่าต้นน้ำ
จากกรณีวันที่ 24 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังหลายหน่วยงาน เจ้าหน้าทีหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.4 (หลังสวน) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (กก.5 บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 414 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร กอ.รมน.ชุมพร ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.16 ต.ควน อ.หลังสวน จ.ชุมพรได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในพื้นที่ซอยบ้านยวนทอง ม.16 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพรพบการกระทำผิดและได้นำส่งเจ้าพนักงานสืบสวน สภ.หลังสวน จ.ชุมพร เพื่อดำเนินคดี
ต่อมา เมื่อเวลา 9:00 น วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นายจิรศักดิ์แสงหอย นายอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ได้รับแจ้ง จากชาวบ้าน ว่าในพื้นที่ อำเภอหลังสวน ได้มีการลักลอบบุกรุก ตัดไม้ ทำลายป่า อนุรักษ์ มี ต้นไม้ อายุมากกว่า 100 ปีถึง 300 ปีจำนวนหลายร้อยต้นถูกลักลอบกัดเพื่อนำไปจำหน่ายมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ที่ผ่านมาชาวบ้านเกรงกลัวอิทธิพลเพราะมีทั้ง เจ้าหน้าที่ ของรัฐ และ แก๊ง ตัดไม้ ที่มีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ข่มขู่ จะฆ่าปิดปากแต่หลังจากเกิด ภัยพิบัติน้ำท่วมน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวว่าจะไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ด้านล่างภูเขาของป่าดังกล่าวได้ จึงแอบมารายงานให้กับ นายอำเภอหลังสวนได้รับทราบ
นายธีรศักดิ์ แสงหอยนายอำเภอหลังสวนจึงสั่งการให้ นายวันชัยขุนรินทร์ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายปิยพงศ์ สิทธิสมบูรณ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย สมาชิกอส.อ.หลังสวน ที่ 6 บูรณาการร่วมกับ ตร. สภ.หลังสวน นำกำลังเดินทางไปยังพื้นที่หมู่ที่ 16 ตำบลบ้านควนอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่ ภูเขา ขนาดใหญ่ ด้านบนของภูเขาเป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีเนื้อที่นับพันไร่ และยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วย สัตว์ป่านานาชนิด ลิงข้าง ช้างป่า หลาย 10 ตัว รวมถึงต้นไม้ ขนาดใหญ่ บางต้นอายุร่วม 300 ปีซึ่งชาวบ้านได้ ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย เพื่อเป็นป่าต้นน้ำลำธาร เป็นต้นน้ำของแม่น้ำหลังสวนแม่น้ำละแมและแม่น้ำอีกหลายสายในพื้นที่อำเภอหลังสวนและอำเภอละแมจังหวัดชุมพรที่ชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภคตลอดระยะเวลายาวนานตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน
ทางด้าน ชุดฝ่ายปฏิบัติงานข่าว กอ.รมน ชุมพร เปิดเผยว่าสำหรับป่าผืนนี้ชุดจับกุมของกอ.รมน.ชุมพร เคยบุกเข้าไปดำเนินการตรวจสอบและยึดพื้นที่ไว้ก่อนหน้านี้ และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ป่าไม้ หลังสวนได้รับทราบเพื่อดำเนินคดีด้วยการยึดพื้นที่ไว้และยังติดตามดูการบุกรุกมาอย่างต่อเนื่อง จนมาทราบว่า ทางฝ่ายปกครอง ได้ บุกเข้าดำเนินการจับกุมอีก จึงคิดว่า น่าจะต้องรวมเรื่องราวให้เป็นเรื่องเดียวกันก่อนที่ป่าจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้น พร้อมกับผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ควรเร่งฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้อุดมสมบูรณ์เหมือนดังเดิมต่อไป
จากลงตรวจสอบพื้นที่ ในพื้นที่บริเวณ ที่ลาด เชิงเขาก่อนจะถึงยอดเขาหลายสิบกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ พบ กับภาพที่น่าสลดใจเมื่อมีต้นไม้ขนาดใหญ่ ถูกโค่นล้มและทำการแปรรูปอยู่เป็นวงกว้างคาดว่าน่าจะเป็นต้นไม้ร่วม 50 ต้นที่ถูกโค่นล้ม บางจุดมีสภาพ เป็นตอตะโกคล้ายกับถูกตัดมานานนับปี ในพื้นที่ใกล้เคียงยังพบ บ้าน สร้างในลักษณะกึ่งถาวร มีรถยนต์ กระบะจอดอยู่ จึงได้เข้าทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนยาว แบบไทยประดิษฐ์ ขนาด 22 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอกและกระสุนปืนจำนวน 1 เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นหน้าประตูบ้านเปิดทิ้งไว้ลักษณะคล้ายกับมีคนอยู่ภายในบ้าน จึงวางกำลังล้อมรอบบ้านหลังดังกล่าว และส่งกำลังส่วนหนึ่ง บุกเข้าไปภายในบ้าน พบ ชื่อนายหนุน (นามสมมุติ)อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/7 หมู่ที่ 1 ตำบลชุมโค อำเภอปะทิวจังหวัดชุมพร และนายอก้อง (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/4 หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านควนอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร ตรวจค้นในตัวนายก้องพบยาเสพติด ยาบ้าจำนวน 1
จากการสอบสวนนายหนุน (นามสมมุติ) ให้ การรับสารภาพว่า เป็นผู้ตัดไม้ ในพื้นที่ดังกล่าวจริง อีกทั้งเป็นเจ้าของอาวุธปืนที่ตรวจพบ จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจหลังสวนดำเนินคดีทันทีต่อไป
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
