06/02/2025

“พล.ต.อ.ธัชชัยฯ” ประชุมเตรียมรับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานจากเมียนมาไปกัมพูชา สั่งเดินหน้าป้องกันปราบปรามเต็มกำลัง

IMG_8848

“พล.ต.อ.ธัชชัยฯ” ประชุมเตรียมรับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานจากเมียนมาไปกัมพูชา สั่งเดินหน้าป้องกันปราบปรามเต็มกำลัง

วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า วานนี้ได้ลงพื้นที่ไปประชุมป้องกันแก้ไขปัญหาการย้ายฐานที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี , พล.ต.ต.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 , หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ จ.จันทบุรี, น.อ.บัญญัติ วงศ์จำปา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน ,น.อ.นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 115 ต.โป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า จากปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา อย่างต่อเนื่องและยกระดับความเข้มข้นในการเดินหน้าปราบปราม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและนานาประเทศ ตลอดจนมาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” กวาดล้างการลักลอบส่งสัญญาณมือถือและอินเตอร์เน็ต ซิม สาย เสา เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการตัดกระแสไฟฟ้าตามคำสั่งของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำให้คาดว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา อาจย้ายฐานปฏิบัติการไปยังชายแดนประเทศกัมพูชา ดังนั้น จึงต้องมีการวางแผนรับมือแบบบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อการป้องกันปราบปรามไม่ให้กลุ่มแก๊งดังกล่าวสามารถตั้งฐานปฏิบัติการเพื่อหลอกลวงประชาชนไม่ว่าชนชาติใด

ในการประชุมครั้งนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ชายแดน ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยให้บูรณการทุกภาคส่วนในการสกัดอาชญากรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศ นอกจากนี้ สั่งการให้เตรียมพร้อมสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ และเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะย้ายฐานจากชายแดนประเทศเมียนมาไปสู่ประเทศกัมพูชา รวมทั้งสกัดกั้น ตรวจสอบชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้า-ออกประเทศกัมพูชา ให้มีการตรวจค้น ตรวจสอบประวัติบุคคล การเดินทาง ให้การรวบรวมข้อมูลโดยฝ่ายความมั่นคง เพื่อประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว ในการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมต่าง ๆ ด้วย ยืนยันว่าจะเร่งเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในการปราบปราม จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งภายใน 3 เดือน คาดหวังว่าสถานการณ์ความรุนแรงของอาชญากรรมดังกล่าวจะลดลงอย่างเป็นรูปธรรม